ยา priligy คือ ยาที่ช่วยรักษาอาการหลั่งไวของผู้ชาย ประกอบด้วยตัวยาสำคัญ Dapoxetine ซึ่งเป็นยาในกลุ่มเอสเอสอาร์ไอ (SSRI) ทำงานโดยการยับยั้งสารสื่อประสาทเซโรโทนิน (Serotonin) กลับเข้าสู่เซลล์ ทำให้มีสารเซโรโทนินมากขึ้นในส่วนตัวรับสัญญาณประสาทที่เกี่ยวข้องกับการหลั่ง ยับยั้งการหดตัวของอวัยวะต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการหลั่ง ส่งผลให้หลั่งช้าขึ้นนั่นเอง
ประวัติของยา priligy
Priligy เป็นยาที่จัดจำหน่ายโดยบริษัท Johnson & Johnson ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ในปี 2012 ปัจจุบันได้รับการอนุมัติจากหลายประเทศเพื่อใช้ในการรักษา อาการหลั่งไวของผู้ชาย (premature ejaculation)
การใช้ยา Priligy ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ที่รักษา เนื่องจากยา Priligy มีผลข้างเคียงที่บางประการ ที่จะต้องระวัง ดังนั้นควรพูดคุยและปรึกษากับแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนการใช้ยา
วิธีการทานยา priligy (Dapoxetine)
รับประทานยาก่อนการมีเพศสัมพันธ์ ประมาณ 1 – 3 ชั่วโมง สามารถทานก่อน หรือหลังอาหารก็ได้ ฤทธิ์ของยาจะอยู่ได้นานประมาณ 24 ชั่วโมง และร่างกายจะขับยาออกทางปัสสาวะ โดยปริมาณการใช้ยาจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ล่ะบุคคล โดยต้องดูถึงน้ำหนัก อายุ สุขภาพ โรคประจำตัว และประวัติการใช้ยา ขนาดยาจะมี 2 ขนาด คือ 30 mg และ 60 mg
ราคา และสถานที่จัดจำหน่าย
ยา Priligy ขนาด 30 mg จะมีราคา 850 บาท และ 60 mg จะมีราคา 1,000 บาท โดย 1 กล่องจะบรรจุ 3 เม็ด สามารถหาซื้อได้ตามโรงพยาบาล หรือคลีนิคเฉพาะทาง และร้านขายยา เป็นต้น โดยปัจจุบันยาดาพ็อกซิไทน์ มียาที่มีชื่อการค้าอื่นของยานี้ในต่างประเทศ เช่น Dumax, Duratia, Joybox, Kutub, Lejam, Pentenal-30, Sustinex, Ever Long, Westoxetin
ยา Dapoxetine ตัวอื่นๆDapoxetine แตกต่างจากไวอากร้าอย่างไร?
Dapoxetine จะยาในกลุ่มเอสเอสอาร์ไอ (SSRI) ซึ่งทำงานโดยยับยั้งการดูดซึมสารเซโรนินกลับสู่ร่างกาย ทำให้สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้นานขึ้น ใช้ในการรักษาภาวะหลั่งเร็ว (PE)
ขณะที่ยาไวอากร้าจะเป็นยาในกลุ่มขยายหลอดเลือด (PDE5) ใช้ในการรักษาภาวะองคชาติอ่อนตัวกลางคัน(ED) ช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ดีขึ้น
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ยาดาพ็อกซิไทน์ อาจจะมีผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นขณะทานยาได้ เช่น วิงเวียนศรีษะ คลื่นไส้ หาว คลื่นไส้ นอนไม่หลับ ซึ่งอาการจะเป็นมากน้อย ขึ้นอยู่ในแต่ละบุคคล โดยอาการเหล่านี้จะหายไปเองเมื่อยาหมดฤทธิ์ แต่หากอาการข้างเคียงไม่ยอมหาย และรุยแรงเกินไป ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจรักษา
ข้อควรระวังในการใช้ยา
- ห้ามใช้ยากับผู้ที่มีประวัติแพ้ยานี้ หรือยาในกลุ่มนี้
- ห้ามใช้ยากับยาในกลุ่มเพิ่มเซโรนินในสมองเหมือนกัน เช่น ยา SSRI SNRI TCA MAOI หรือ ยาในกลุ่มต้านซึมเศร้า เป็นต้น
- ควรระวังในการใช้ยากับกลุ่มยาที่ใช้ลดความดันสูง การใช้ยาดาพ็อกซิไทน์ กับยากลุ่มนี้อาจจะทำให้เกิดภาวะความดันเลือดต่ำได้
- ห้ามใช้ยานี้ร่วมกับยาที่มีผลต่อความแข็งตัวของเลือด
- ห้ามใช้ยากับสตรีที่กำลังมีบุตร หรือให้นมบุตร และเด็ก
- ห้ามใช้ยาเกินขนาดที่แพทย์ระบุ
- การเก็บยาควระเก็บในที่ไม่มีแสงแดด ไม่มีความร้อน และความชื้น